How to

เทคนิคการดูดฝุ่นรถยนต์ให้สะอาดหมดจด เคล็ดลับง่าย ๆ ที่คุณควรรู้

การดูดฝุ่นรถยนต์ไม่ใช่เพียงเพื่อให้รถสะอาดและดูน่าใช้งานเท่านั้น แต่ยังช่วยลดฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ในรถยนต์ ทำให้การขับขี่เป็นประสบการณ์ที่ปลอดภัยและสุขภาพดี บทความนี้จะนำเสนอขั้นตอนการดูดฝุ่นรถยนต์อย่างละเอียด พร้อมเคล็ดลับในการเลือกอุปกรณ์ทำความสะอาด เพื่อช่วยให้รถยนต์ของคุณสะอาดหมดจดและคงความใหม่อยู่เสมอ   ขั้นตอนการดูดฝุ่นรถยนต์ให้สะอาด     1. เตรียมความพร้อม ก่อนเริ่มดูดฝุ่น ควรจอดรถในพื้นที่ร่มและเปิดประตูรถทุกบานเพื่อให้อากาศถ่ายเทสะดวก นอกจากนี้ควรนำสิ่งของต่าง ๆ เช่น ขยะหรือของใช้ส่วนตัวออกจากรถให้หมด เพื่อความสะดวกในการทำความสะอาดทุกมุม เคล็ดลับ การเปิดประตูทุกบานช่วยระบายอากาศและลดกลิ่นอับในรถได้ดี   2. เริ่มดูดฝุ่นจากบนลงล่าง เริ่มต้นจากการดูดฝุ่นบริเวณเบาะที่นั่ง พรม และพื้นรถ โดยใช้หัวดูดแบบช่องแคบสำหรับพื้นที่แคบ เช่น ซอกประตู และช่องระบายอากาศ หัวดูดแบบแปรงเหมาะสำหรับดูดฝุ่นบริเวณเบาะหนังและคอนโซล คำแนะนำ ใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีกำลังแรงดูดสูงเพื่อให้แน่ใจว่าฝุ่นละอองและเศษสิ่งสกปรกถูกกำจัดอย่างหมดจด     3. ให้ความสำคัญกับจุดที่มักมองข้าม บางจุดในรถอาจถูกละเลยในขณะทำความสะอาด เช่น ที่วางแก้ว ช่องเก็บสัมภาระ และช่องเสียบสายชาร์จ การใช้แปรงขนาดเล็กหรือหัวดูดแบบพิเศษช่วยทำความสะอาดจุดเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เคล็ดลับเพิ่มเติม ตรวจสอบช่องระบายอากาศและทำความสะอาดด้วยแปรงขนนุ่มเพื่อป้องกันการสะสมของฝุ่น   4. ทำความสะอาดกระจก หลังจากดูดฝุ่นเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมทำความสะอาดกระจกทั้งด้านในและด้านนอก ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ชุบน้ำยาเช็ดกระจก เช็ดให้ใสสะอาดเพื่อเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ คำแนะนำ ใช้น้ำยาเช็ดกระจกที่มีส่วนผสมป้องกันคราบน้ำเพื่อความสะอาดที่ยาวนานขึ้น     Tips […]

เทคนิคการดูดฝุ่นรถยนต์ให้สะอาดหมดจด เคล็ดลับง่าย ๆ ที่คุณควรรู้ Read More »

เทคนิคทำความสะอาดกระจกรถยนต์ให้ใสปิ๊ง ไม่ทิ้งคราบน้ำ

เทคนิคทำความสะอาดกระจกรถยนต์ให้ใสปิ๊ง ไม่ทิ้งคราบน้ำ

การดูแลรักษาความสะอาดรถยนต์เป็นสิ่งที่เจ้าของรถทุกคนควรให้ความสำคัญ โดยเฉพาะกระจกรถยนต์ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญอย่างมากในการขับขี่ เพราะหากกระจกไม่ใสสะอาด อาจทำให้การมองเห็นไม่ชัดเจน และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการทำความสะอาดกระจกรถยนต์ให้ใสปิ๊ง พร้อมเคล็ดลับที่ช่วยลดการเกิดคราบน้ำ ด้วยขั้นตอนง่าย ๆ และผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมสำหรับการดูแลรถของคุณ   ขั้นตอนการทำความสะอาดกระจกรถยนต์   1. ล้างกระจกด้วยน้ำสะอาด เริ่มต้นด้วยการฉีดน้ำเปล่าลงบนกระจก เพื่อล้างฝุ่นและสิ่งสกปรกที่เกาะอยู่เบื้องต้น การทำเช่นนี้จะช่วยป้องกันการเกิดรอยขีดข่วนระหว่างการทำความสะอาด เคล็ดลับ: ใช้สายยางที่มีแรงดันปานกลาง เพื่อให้สิ่งสกปรกถูกชะล้างออกอย่างง่ายดาย   2. ลงน้ำยาทำความสะอาดกระจก ใช้น้ำยาทำความสะอาดกระจกเฉพาะ เช่น Hi-Glass ของ Peerapat ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อขจัดคราบสกปรกฝังแน่นบนกระจกรถยนต์โดยเฉพาะ ฉีดน้ำยาให้ทั่วบริเวณกระจก ทิ้งไว้สักครู่เพื่อให้น้ำยาทำปฏิกิริยากับคราบสกปรก จากนั้นใช้ฟองน้ำหรือผ้านุ่มเช็ดคราบออก คำแนะนำ: หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาล้างจานหรือน้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์กัดกร่อน เพราะอาจทำให้กระจกเกิดรอยเสียหาย   3. เช็ดด้วยไมโครไฟเบอร์ ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดกระจกจากบนลงล่าง โดยการเช็ดในทิศทางเดียวจะช่วยป้องกันการเกิดคราบน้ำไหลกลับขึ้นไป ผ้าไมโครไฟเบอร์มีคุณสมบัติช่วยดูดซับน้ำและคราบได้ดี จึงเหมาะสำหรับการทำความสะอาดกระจกรถยนต์ เคล็ดลับ: เลือกผ้าที่สะอาดและปราศจากฝุ่น เพื่อป้องกันการเกิดรอยขีดข่วน   4. ขจัดคราบฝังแน่น หากพบคราบสกปรกที่ฝังแน่น เช่น คราบน้ำมัน หรือรอยคราบน้ำ ควรใช้ฟองน้ำชุบน้ำยาขจัดคราบเฉพาะ หรือใช้ใบมีดโกนที่สะอาดค่อย

เทคนิคทำความสะอาดกระจกรถยนต์ให้ใสปิ๊ง ไม่ทิ้งคราบน้ำ Read More »

3 ทริคไม่ลับ ขจัดคราบมันในครัวแบบมือโปร

3 ทริคไม่ลับ ขจัดคราบมันในครัวแบบมือโปร

คราบน้ำมัน เกาะติดฝังแน่นห้องครัวในร้านอาหาร ถูเท่าไหร่ก็ขจัดคราบสกปรกไม่ออกเสียที ใครที่กำลังปวดหัวกับปัญหานี้ ลองทำตาม 3 ทริคดี ๆ ในการขจัดคราบน้ำมันติดแน่นในครัวกันดู มีวิธีการอย่างไรบ้าง ไปดูกัน! วิธีขจัดคราบมันบนผนังครัว นำ เลมอน คลีน ใส่กระบอกฉีด แล้วฉีดไปที่คราบมันบนผนังครัวให้เปียก จากนั้นเช็ดออกด้วยผ้าชุบน้ำสะอาดไปในทิศทางเดียวกันเลมอน คลีน น้ำยาขจัดคราบภายในครัว ขนาด 5 ลิตร ราคา 364 บาท วิธีขจัดคราบมันบนพื้นครัว ผสม คิทช์ คลีน ในสัดส่วน 1 ลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร เทลงบนพื้นผิวที่ต้องการ แล้วใช้แปรงขัดคราบมันออก จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาดคิทช์ คลีน น้ำยาทำความสะอาดพื้นครัว ขนาด 5 ลิตร ราคา 364 บาท วิธีขจัดคราบมันตามอุปกรณ์ครัว นำ แบล็ก ออฟ เอ็น ใส่กระบอกฉีด ฉีดลงบนพื้นผิวที่ต้องการ ทิ้งไว้ 10-15

3 ทริคไม่ลับ ขจัดคราบมันในครัวแบบมือโปร Read More »

Tips กำจัดคราบบนภาชนะ สะอาดง่ายแค่ทำถูกวิธี

Tips กำจัดคราบบนภาชนะ สะอาดง่ายแค่ทำถูกวิธี

ล้างจานไม่สะอาด ปัญหาที่ทุกร้านอาหารมักต้องเจอ ทั้งกวนใจแถมยังทำให้เปลืองน้ำกับ น้ำยาล้างจานอีก ถ้ารู้วิธีล้างที่ถูก ปัญหานี้จะกลายเป็นเรื่องเล็กทันที มาดูกันว่าต้องล้างยังไง! สำคัญ คือ ควรเลือกน้ำยาล้างจานที่มีประสิทธิภาพ และมีส่วนผสม ของมะนาว เพื่อช่วยขจัดคราบและ กลิ่นคาวออกได้ จึงควรเลือกใช้ น้ำยาล้างจาน ไชน์นิ่ง ซื้อยกลังยังไงก็คุ้ม สามารถออกใบกำกับภาษีได้

Tips กำจัดคราบบนภาชนะ สะอาดง่ายแค่ทำถูกวิธี Read More »

เคล็ด(ไม่)ลับ ทำความสะอาดพรมให้เหมือนใหม่

เคล็ด(ไม่)ลับ ทำความสะอาดพรมให้เหมือนใหม่

ที่พักส่วนมากมักใช้พรมในการปูพื้นห้องเพื่อความสวยงาม แต่ความสวยงาม ก็ต้องแลกมาด้วยการดูแลที่ยาก ซึ่งการส่งพรมซักกับบริษัทรับจ้างหลาย ๆ ชิ้น ทำให้เสียต้นทุนค่าซักไม่น้อย การทำความสะอาดเองจึงเป็นวิธีที่ประหยัดกว่า พีรพัฒน์มีวิธีมาบอก! 1. เมื่อมีของเหลวหกลงบนพรมเป็นจุดเล็ก ๆ ให้ใช้ผ้าซับ ไม่ควรใช้การเช็ดหรือถูออกเพราะจะทำให้คราบกระจายวงกว้างขึ้น 2. คราบแห้งที่เกิดบนพรม ใช้เกลือหรือผงซักฟอกโรยทิ้งไว้ แล้วใช้ผ้าชุบน้ำสบู่อ่อน ๆ เช็ดออก 3. กลิ่นบนพรมหากเกิดเป็นจุดเล็กๆ สามารถใช้น้ำส้มสายชูผสมกับน้ำเปล่าในปริมาณ 1:2 ฉีดลงบนพรมแล้วซับออกได้ 4. หากเกิดคราบหมากฝรั่งหรือคราบเหนียว ให้ใช้น้ำแข็งวางไว้บนคราบ เพื่อให้คราบแข็งตัวและหลุดออกง่ายขึ้น 5. ดูดฝุ่นและซักพรมเป็นประจำ เพื่อไม่ให้พรมเป็นแหล่งสะสมของสิ่งสกปรก และส่งกลิ่นเหม็นอับ ด้วยเครื่อง Nilco S270 Carpet Cleaning and Wet&Dry Vacuum

เคล็ด(ไม่)ลับ ทำความสะอาดพรมให้เหมือนใหม่ Read More »

รู้หรือไม่ เชื้อไวรัสอยู่บนพื้นผิวชนิดต่างๆ ได้นานกี่วัน

รู้หรือไม่ เชื้อไวรัสอยู่บนพื้นผิวชนิดต่างๆ ได้นานกี่วัน

พาสำรวจ! เชื้อไวรัสที่อาจพบในร้านอาหารมีอยู่ที่ไหน? และมีชีวิตอยู่ได้นานกี่วัน? ร้านอาหารในอาคารปิด เชื้อไวรัสจะแพร่ทางอากาศได้ไกล 4-5 เมตร และลอยอยู่ในอากาศได้นานถึง 3 ชั่วโมง โดยอายุขัยของเชื้อไวรัสจะแตกต่างกันในแต่ละพื้นผิว ดังนี้ ลูกบิดประตู ราวบันได เชื้อไวรัสอยู่ได้นาน 7-8 ชั่วโมง ผ้าขนหนู กระดาษทิชชู เชื้อไวรัสอยู่ได้นาน 8-12 ชั่วโมง โต๊ะสเตนเลส อ่างล้างจาน เชื้อไวรัสอยู่ได้นาน 1-2 วัน เฟอร์นิเจอร์ไม้ พื้นระเบียง เชื้อไวรัสอยู่ได้นาน 4 วัน จาน แก้วน้ำ แจกัน เชื้อไวรัสอยู่ได้นาน 5 วัน ตู้เย็นที่อุณหภูมิต่ำกว่า 4 องศาเซลเซียส เชื้อไวรัสอยู่ได้นาน 1 เดือน เพื่อความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงาน ร้านอาหารจึงควรหมั่นทำความสะอาดในพื้นผิวต่าง ๆ ด้วยน้ำยาทำความสะอาด สูตรฆ่าเชื้อโรค ขอแนะนำ VIP KLEAR วิพ เคลียร์ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ

รู้หรือไม่ เชื้อไวรัสอยู่บนพื้นผิวชนิดต่างๆ ได้นานกี่วัน Read More »

7 วิธีรับมือ เชื้อไวรัสในร้านอาหาร

ตั้งการ์ด! ร้านอาหารควรรับมืออย่างไรให้ไกลจากไวรัส

ธุรกิจร้านอาหารจำเป็นต้องปรับตัว เพื่อฝ่าวิกฤตครั้งนี้ และสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าเมื่อมาทานอาหารที่ร้าน วันนี้แอดมินจะมาแชร์แนวทางการปฏิบัติสำหรับธุรกิจร้านอาหาร เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ต้องทำอย่างไรบ้างนั้น ไปดูกัน!! 1 .ทำความสะอาดโต๊ะทันทีหลังใช้บริการ และจัดทำสัญลักษณ์แสดงการทำความสะอาด 2. ทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วมทุก 1-2 ชั่วโมง เช่น ที่จับประตูร้าน ราวบันได ห้องน้ำ 3. มีบริการเจลแอลกอฮอล์ประจำทุกโต๊ะ ซึ่งต้องเป็นแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้น 70% ขึ้นไป 4. จัดอุปกรณ์ตักอาหารเฉพาะบุคคล กรณีที่ต้องทานหม้อหรือภาชนะเดียวกัน ต้องจัดอุปกรณ์ตักอาหารเฉพาะบุคคลและมีช้อนกลางในการตักอาหารร่วมกับผู้อื่นกรณีบริการอาหารรูปแบบบริการตนเองในร้านอาหารบุฟเฟต์-สลัดบาร์-หมูกระทะ ต้องจัดบริการถุงมือให้กับลูกค้า 5. เว้นระยะห่างระหว่างบุคคลและโต๊ะอาหารอย่างน้อย 1-2 เมตร หากมีพื้นที่จำกัดมีระยะไม่ถึง 1 เมตร ให้ทำฉากกั้น 6. ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ ที่มีคุณสมบัติกำจัดเชื้อโรค เชื้อไวรัส แบคทีเรีย และสิ่งสกปรกต่าง ๆ เพื่อช่วยให้อากาศบริสุทธิ์ ลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส 7. เปิดหน้าต่าง-ประตูอย่างน้อย 30 นาที ก่อนเปิดร้านรับลูกค้าและช่วงเวลาพักของร้าน เพื่อให้อากาศถ่ายเท ลดการสะสมของเชื้อโรคในอากาศ นอกจากนี้ลูกค้าที่มาใช้บริการควรให้ความร่วมมือในการสวมหน้ากากอนามัยไว้ตลอดเวลาในช่วงที่ไม่ได้ทานอาหาร และควรล้างมือก่อนทานอาหาร หรือหลังใช้ห้องน้ำ

ตั้งการ์ด! ร้านอาหารควรรับมืออย่างไรให้ไกลจากไวรัส Read More »

5 สาเหตุ ทำให้เสื้อผ้ามีกลิ่นเหม็นอับ

เผย 5 สาเหตุ เสื้อผ้าเหม็นอับชื้น เกิดจากอะไรบ้าง? 1. ตากผ้าในที่ร่มการตากผ้าในห้องขณะผ้ายังเปียก ไม่มีอากาศถ่ายเท ทำให้ผ้าเหม็นอับ และอาจทำให้เกิดเชื้อราได้ 2. แช่ผ้าข้ามคืนการแช่ผ้าในน้ำที่มีผสมผงซักฟอกที่มีแป้งเยอะ ทำให้เชื้อแบคทีเรียเจริญเติบโตง่ายขึ้น ก่อให้ผ้ามีกลิ่นอับและยังเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค 3. เสื้อผ้าค้างหมักหมมในตะกร้าการหมกเสื้อผ้าที่ใส่แล้วในตะกร้าเป็นเวลานาน ทำให้สิ่งสกปรกและคราบเหงื่อต่าง ๆ ถูกหมักหมม ก่อให้เกิดเชื้อราและแบคทีเรีย รวมถึงทำให้ผ้าเหม็นอับชื้น 4. ผ้ายังไม่แห้งสนิทไม่ควรเก็บเสื้อผ้าเข้าตู้ทั้ง ๆ ที่ผ้ายังเปียกชื้นและไม่แห้งเพราะความชื้น อาจทำให้เกิดเชื้อรา หนึ่งในสาเหตุของกลิ่นอับบนผ้า 5. เชื้อราในเครื่องซักผ้าหากไม่หมั่นทำความสะอาดเครื่องซักผ้า อาจทำให้เสื้อผ้ามีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ได้ เนื่องจากคราบสิ่งสกปรกและผงซักฟอกตกค้างอยู่ กลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อราต่อให้ซักผ้าบ่อยแค่ไหน ผ้าก็ยังคงเหม็นอับเหมือนเดิม เสื้อผ้าอับชื้น นอกจากจะทำให้มีกลิ่นเหม็นอับ ยังก่อให้เกิดกลากเกลื้อน ผื่นแพ้ตามผิวหนัง และยังทำให้เสียบุคลิกภาพ ขาดความมั่นใจ เมื่ออยู่ใกล้คนรอบข้าง เมื่อรู้สาเหตุของกลิ่นอับบนเสื้อผ้าแล้ว ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการซักผ้า พร้อมใช้ผลิตภัณฑ์ที่ฆ่าเชื้อบนผ้าโดยเฉพาะ ก็จะช่วยกำจัดกลิ่นเหม็นอับได้ แบคโค ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อบนผ้า หอมฟุ้งกระจาย ช่วยยับยั้งเชื้อโรค/แบคทีเรียได้ 99.9% ป้องกันกลิ่นอับชื้นบนเสื้อผ้าแม้ต้องตากในที่ร่ม ล็อกความหอม ให้กลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มติดทนนานขึ้น ซักได้ทั้งผ้าขาว/ผ้าสี ใช้ร่วมกับน้ำยาปรับผ้านุ่ม ไม่มีสารฟอกขาว

5 สาเหตุ ทำให้เสื้อผ้ามีกลิ่นเหม็นอับ Read More »

How To ล้างจานอย่างไรให้สะอาดรวดเร็ว

ทำกับข้าวกินเองที่บ้าน สิ่งที่ต้องเจอก็คือ งานล้างจาน ที่หลายคนไม่ชอบกัน วันนี้แอดมินเลยจะมาแชร์เคล็ดลับการล้างจาน ที่ถึงแม้จะมีจานชามกองโตเต็มอ่างล้างจาน ก็สะอาดเกลี้ยง รวดเร็ว ทำอย่างไรบ้างนั้น ไปดูวิธีกันเลย! 1. เคลียร์เศษอาหารอย่างแรกสุดคือ เก็บกวาดเศษอาหารในจานออกให้หมด เพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาดจาน 2. จัดแยกชนิดภาชนะควรแยกภาชนะออกเป็นหมวดหมู่ เช่น แยกเป็นกองจานถ้วย ชาม แก้วน้ำ หรือช้อนส้อม อาจจะแยกใส่ตะกร้า หรือแช่น้ำในกะละมังก็ได้ 3. เรียงลำดับการล้างภาชนะก่อน-หลัง อันดับแรกล้างแก้วน้ำก่อนแก้วน้ำเป็นภาชนะที่มีคราบอาหารน้อยที่สุด จึงควรล้างแก้วน้ำก่อนเป็นอันดับแรก เพราะคราบสกปรกและกลิ่นอาหารอาจติดแก้วน้ำได้ ล้างช้อนส้อมก่อนล้างจานชามอันดับสองควรล้างช้อนส้อมต่อจากแก้วน้ำ เพราะช้อนส้อมมักมีคราบอาหารติดตามร่อง จึงควรล้างให้สะอาดก่อนไปล้างจานชาม ล้างจานชามที่เลอะน้อยก่อนควรไล่ล้างจานชามที่มีคราบอาหารน้อยที่สุดก่อน แล้วค่อยล้างจานที่เปื้อนคราบหนักเป็นขั้นตอนสุดท้าย เพราะจะช่วยขจัดคราบต่าง ๆ ได้ง่าย ประหยัดน้ำ และเบาแรงอีกด้วย 4. ผสมน้ำยาล้างจานกับน้ำควรผสมน้ำยาล้างจาน 1 ช้อนโต๊ะกับน้ำเปล่า 1 ถ้วย แล้วตีผสมกันให้เกิดฟอง เพื่อง่ายต่อการล้าง ช่วยให้ล้างภาชนะได้ในปริมาณมากขึ้น

How To ล้างจานอย่างไรให้สะอาดรวดเร็ว Read More »

ตะกร้าสินค้า
เลื่อนไปด้านบน